--- filename: learnpascal-th.pas contributors: - ["Ganesha Danu", "http://github.com/blinfoldking"] - ["Keith Miyake", "https://github.com/kaymmm"] translators: - ["Worajedt Sitthidumrong", "https://bitbucket.org/wrj"] --- > Pascal (ปาสกาล) เป็นภาษาโปรแกรมมิ่งทั้งแบบ imperative และ procedural ที่ออกแบบโดย Niklaus Wirth (นิเคล้า เวิร์ท) เมื่อปี 1968-69 และเผยแพร่ตอน 1970 โดยเน้นให้เป็นภาษาที่เล็ก มีประสิทธิภาพ เพื่อเสริมการเขียนโปรแกรมที่มีแนวปฏิบัติที่ดีด้วยการใช้โครงสร้างของตัวภาษา และโครงสร้างข้อมูลมากำกับ ชื่อของภาษานี้ตั้งเป็นเกียรติให้กับนักคณิตศาสตร์ชาวฝรั่งเศส, นักปรัชญา และนักฟิสิกส์ ชื่อ Blaise Pascal (เบลส ปาสกาล) ข้อมูลจาก : [วิกิพีเดีย][1] การคอมไพล์และรันโค้ดภาษาปาสกาลนี้ สามารถใช้ปาสกาลคอมไพลเลอร์ฟรีชื่อ Free Pascal ได้ โดย [ดาวน์โหลดที่นี่][2] ด้านล่างจะเป็นโครงสร้างภาษาหลัก ๆ ที่ต้องเข้าใจก่อน ปาสกาลจะเป็นภาษาที่เข้มงวดกับโครงสร้างโค้ดมาก ```pascal //โปรแกรมปาสกาล //คอมเม้นต์เขียนแบบนี้ ใช้สแลชสองครั้ง { แต่ถ้าต้องการคอมเม้นหลาย ๆ บรรทัด ให้ใช้ วงเล็บปีกกา (curly brackets) เนื้อหาอยู่บรรทัดเดียวกันกับปีกกาได้ } //อย่างแรก ต้องประกาศ ชื่อโปรแกรม program learn_pascal; //<-- ห้ามลืม semicolon const { ประกาศค่าคงที่ (constant) ในบล็อคนี้ } type { ประกาศชนิดข้อมูลของเราเองที่นี่ ไม่ว่าจะเป็น ชนิดข้อมูลทั่วไป หรือจะเป็นคลาส } var { ตัวแปร ในภาษาปาสกาล ไม่เหมือนกับภาษาอื่น ๆ เพราะต้องประกาศในบล็อค var ก่อนใช้งานเสมอ } //มาถึงส่วนโปรแกรมหลัก หรือ main fucntion นั่นเอง begin { โค้ดเราทำงานอะไร อย่างไร ก็เริ่มรันจากตรงนี้ } end. // จบการทำงานของ _โปรแกรม_ เราจะจบด้วย จุลภาค "." ``` โค้ดต่อจากนี้ จะเป็นการอธิบายประกาศตัวแปรของปาสกาล ```pascal //การประกาศตัวแปร ทำได้แบบนี้ //var ชื่อตัวแปร : ชนิด ; var a:integer; var b:integer; //หรือแบบที่นิยมมากกว่า คือเอามาเก็บในบล็อค var ทั้งหมด var a : integer; b : integer; //ถ้าจะเอาแบบสั้น ๆ บรรทัดเดียว ก็ทำได้ ทำได้พร้อมกันหลาย ๆ ตัวแปรด้วย var a,b : integer; ``` โค้ดตัวอย่างนี้เป็นโปรแกรม Learn\_More ที่เป็นโครงสร้างโปรแกรมง่าย ๆ ที่จบสมบูรณ์หนึ่งโปรแกรม มีบล็อค program, const, type, main (Begin..End.) ```pascal program Learn_More; // มาต่อเรื่อง ชนิดของข้อมูล (data types) และ ตัวดำเนินการ (operators) const PI = 3.141592654; GNU = 'GNU''s Not Unix'; // ค่าคงที่ ให้ตั้งชื่อเป็น ตัวพิมพ์ใหญ่ ทั้งหมด ใช้กับชนิดข้อมูลใดๆ ก็ได้ // ค่าคงที่ ก็ตามชื่อเลย กำหนดค่าแล้ว ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ขณะรัน // การประกาศชนิดข้อมูลของเราเอง // "ชนิด" ของตัวแปรสองแบบนี้ จะนำไปใช้ด้านล่าง type ch_array : array [0..255] of char; // อะเรย์ เป็นชนิดข้อมูลที่มี ความยาว/ช่องเก็บข้อมูล และ ชนิดข้อมูล // โค้ดด้านบน เป็นการประกาศอะเรย์ของตัวอักษา 255 ตัวอักษา // ซึ่งได้ ความยาว/ช่องเก็บข้อมูลในตัวแปรตัวนี้ 256 ช่องที่เป็นข้อความ md_array : array of array of integer; // ด้านบนนี้ เป็นตัวอย่าง อะเรย์สองมิติของเลขจำนวนเต็ม // อะเรย์ ยังซ้อนกับอะเรย์ได้อีกด้วย ทำให้สร้าง อะเรย์หลายมิติได้ // เรายังสามารถสร้าง อะเรย์ที่มีความยาวช่องเท่ากับศูนย์ (0) ได้อีกด้วย // ซึ่งทำให้เกิด อะเรย์ที่จำนวนช่องยืดหยุ่นได้ (dymaically sized array) // การประกาศตัวแปร : ชื่อตัวแปรเหล่านี้จะนำไปใช้ด้านล่างต่อไป var int, c, d : integer; // ประกาศในบล็อค var มีตัวแปรสามตัวเป็นอินทีเจอร์ // ชนิดจำนวนเต็ม แบบ 16 bit มีช่วงข้อมูล [-32,768.. 32,767] // »int« ในที่นี้เป็น "ชื่อตัวแปร" ที่ต้นฉบับตั้งให้สอดคล้องกับชนิดข้อมูล // อย่าสับสนกับบางภาษาที่มีชนิด int ประกาศหน้าชื่อตัวแปร r : real; // ตัวแปร r เป็นชนิดเรียล (real) หรือเลขทศนิยม // real มีช่วงข้อมูล [3.4E-38..3.4E38] bool : boolean; // ข้อมูลชนิดบูเลียน (boolean) มีค่าได้สองแบบ คือ True/False ch : char; // ตัวแปร ch เป็นชนิดตัวอักษร (ชาร์? คาร์?) หรือคาแรกเตอร์ // ตัวอักษรเป็นแบบ ASCII 8 bit ดังนั้นจะไม่ใช่ UTF, Unicode str : string; // ตัวแปรสตริงจะเก็บข้อความ หรือ char หลาย ๆ ตัว // ชนิดข้อมูลนี้ไม่เป็นมาตรฐานภาษาแต่คอมไพเลอร์ปาสกาลก็มักจะมีให้ // ทั่ว ๆ ไปแล้ว จะเป็นอะเรย์ของ char ความยาวตั้งต้น 255 s : string[50]; // แบบนี้คือ กำหนดความยาว string เอง ให้เก็บ char 50 ตัว // แบบนี้ก็ทำให้ประหยัดหน่วยความจำมากขึ้นนั่นเอง my_str: ch_array; // ชนิดตัวแปร ใช้เป็นชนิดที่เรากำหนดเองก็ได้ อย่างตอนนี้ // ch_array เป็น "ชนิดข้อมูล" ที่เราสร้างขึ้นมาในบล็อค type my_2d : md_array; // ตัวแปรแบบอะเรย์ที่ไม่ประกาศขนาด (dynamically sized array) // ก่อนเอาไปใช้จริงต้องระบุขนาดก่อนใช้เสมอ // ชนิดข้อมูลแบบ integer เพิ่มเติม b : byte; // มีช่วงข้อมูล [0..255] shi : shortint; // มีช่วงข้อมูล [-128..127] smi : smallint; // มีช่วงข้อมูล [-32,768..32,767] (standard Integer) w : word; // มีช่วงข้อมูล [0..65,535] li : longint; // มีช่วงข้อมูล [-2,147,483,648..2,147,483,647] lw : longword; // มีช่วงข้อมูล [0..4,294,967,295] c : cardinal; // ก็คือ longword i64 : int64; // มีช่วงข้อมูล // [-9223372036854775808..9223372036854775807] qw : qword; // มีช่วงข้อมูล [0..18,446,744,073,709,551,615] // ชนิดข้อมูลแบบ real เพิ่มเติม rr : real; // มีช่วงข้อมูลที่ขึ้นกับระบบปฏิบัติการ // (เช่นเป็นแบบ 8-bit, 16-bit, ฯลฯ) rs : single; // มีช่วงข้อมูล [1.5E-45..3.4E38] rd : double; // มีช่วงข้อมูล [5.0E-324 .. 1.7E308] re : extended; // มีช่วงข้อมูล [1.9E-4932..1.1E4932] rc : comp; // มีช่วงข้อมูล [-2E64+1 .. 2E63-1] Begin // การกำหนดค่าตัวแปรให้ขณะประกาศ int := 1; r := 3.14; ch := 'a'; // ใช้ single quote เหมือนกันทั้ง char และ string str := 'apple'; bool := true; // ภาษาปาสกาล มอง "ชื่อเฉพาะ" แบบไม่สนพิมพ์ใหญ่พิมพ์เล็ก // (case-insensitive language) // ตัวดำเนินการแบบคณิตศาสตร์ (arithmethic operation) int := 1 + 1; // int = 2 ซึ่งจะกำหนดทับค่าเดิมด้านบนที่เคยประกาศ int := int + 1; // int = 2 + 1 = 3 นำค่าตอนนี้ (2) มา +1 ได้ 3 int := 4 div 2; // int = 2 หารด้วย div จะได้ผลเป็น integer เสมอ int := 3 div 2; // int = 1 int := 1 div 2; // int = 0 bool := true or false; // bool = true bool := false and true; // bool = false bool := true xor true; // bool = false r := 3 / 2; // หารด้วย / จะได้ผลเป็น real เสมอ r := int; // เรากำหนดค่า integer ให้ตัวแปร real ได้ // แต่ทำกลับกัน โดยกำหนด real ให้ integer ไม่ได้ c := str[1]; // กำหนดค่าแรกใน array str ให้ตัวแปร c ที่เป็น char str := 'hello' + 'world'; // เรารวม string เข้าด้วยกันด้วย + my_str[0] := 'a'; // กำหนดค่าให้ string เฉพาะตำแหน่งแบบอะเรย์ทั่วไป setlength(my_2d,10,10); // ปรับขนาดอะเรย์ 2 มิติให้เป็นขนาด 10x10 // โดยตัวแปร my_2d นี้สร้างแล้วด้านบน for c := 0 to 9 do // อะเรย์เริ่มจาก 0 และจบที่ ความยาว-1 for d := 0 to 9 do // ตัวนับ (counter) จำเป็นต้องประกาศก่อนใช้ my_2d[c,d] := c * d; // กำหนดอะเรย์หลายมิติ ด้วยการใช้วงเล็บก้ามปู (square brackets) End. // จบโปรแกรมบริบูรณ์ ด้วย "." ``` ด้านล่าง เป็นตัวอย่างการเขียนโปรแกรมปาสกาลชื่อ Functional\_Programming ```pascal program Functional_Programming; Var i, dummy : integer; function factorial_recursion(const a: integer) : integer; { ทำการคำนวณแฟคทอเรียลซ้ำ ๆ ของเลขจำนวนเต็ม โดยผ่านพารามิเตอร์ a ถ้าจะประกาศตัวแปรโลคอลในฟังก์ชั่น ก็ทำได้ โดยการใช้บล็อค var ภายในฟังก์ชั่น เช่น : var local_a : integer; } Begin If a >= 1 Then { ฟังก์ชั่นนี้คืนค่ากลับ โดยการกำหนดค่าที่ผ่านทางพารามิเตอร์ a นำมาคูณกับฟังก์ชั่นที่ผ่าน a-1 สุดท้ายก็กำหนดค่าลงไปให้กับฟังก์ชั่นตรงๆ } factorial_recursion := a * factorial_recursion(a-1) Else factorial_recursion := 1; End; // จบ ฟังก์ชั่น ด้วย ";" หลัง End ไม่เหมือนกับจบ โปรแกรม ที่จะใช้ "." procedure get_integer(var i : integer; dummy : integer); { เรารับ input จากผู้ใช้มาเก็บใน parameter i ที่เป็น integer ที่ตั้งขึ้นใน พารามิเตอร์ โดยใช้ var ประกาศ ทำให้ค่าที่รับเข้ามาจะเปลี่ยนปรับได้จาก ภายนอกการประกาศพารามิเตอร์นี้ ส่วน dummy เป็นตัวแปรที่ปรับเปลี่ยนได้ "เฉพาะจากภายในฟังก์ชั่น,โพรซีเยอร์นั้น ๆ } Begin write('Enter an integer: '); readln(i); dummy := 4; // dummy จะไม่ทำให้ค่าที่ได้รับมาครั้งแรกใน main block เปลี่ยน End; //--------------------// // main program block //--------------------// Begin dummy := 3; get_integer(i, dummy); writeln(i, '! = ', factorial_recursion(i)); // พิมพ์ค่า i! writeln('dummy = ', dummy); // จะให้ค่าเป็น '3' เสมอ // เพราะจะไม่เปลี่ยนเนื่องด้วย // การประกาศพารามิเตอร์ใน // โพรซีเยอร์ get_integer ด้านบน End. ``` [1]: https://en.wikipedia.org/wiki/Pascal_(programming_language) [2]: https://www.freepascal.org/